EE1935 : Spartacus ข้าคือสปาตาคัส (1960) DVD 1 แผ่น

จำนวน 1 แผ่น

เสียง ไทย/อังกฤษ

บรรยาย ไทย

เรื่องย่อ

Spartacus เป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่นำเอาชีวิตของชายชื่อ Spartacus (120-70 ปีก่อนคริสตกาล) ชาวThrace ผู้รับมรดกความเป็นทาสต่อจากทาสผู้พ่อแม่ เมื่อโตวัยเขาถูกขายให้เป็นนักต่อสู้กับสิงโต  ณ อาณาจักรโรมันโบราณ เขาคือผู้นำการลุกฮือของเหล่าทาสที่เมืองคาร์ปัวน์ เมื่อ 73 ปีก่อนคริสตกาล และได้รวบรวมบรรดาทาสชนชาติต่างๆ จากดินแดนที่เขาเดินทางผ่านได้เป็นจำนวนมาก เขาก่อการกบฏเอาชนะกองทัพโรมันได้หลายครั้ง บุกขึ้นไปทางเหนือจนถึงดินแดนกอลทิศเหนือของอิตาลี ต่อมากองทัพของพวกกบฎของเขาต้องพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพโรมันซึ่งนำโดย Marcus Licinius Crassus แล้วเหล่าทาสก็ถูกจับตรึงกางเขนประจานให้ตายอย่างช้าๆ

คุณ ค่าทางประวัติศาสตร์ของหนังเรื่องนี้ต้องการอธิบายถึงชีวิตอันไร้ค่า ต่ำต้อยด้อยโอกาส และไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเหล่าทาสที่ต้องถูกกดขี่ข่มเหงโดยบรรดาชน ชั้นผู้ปกครองผู้มียศเพื่อแลกกับการอาหารยังชีพและชีวิตที่ยังมีลมหายใจ จน กระทั่งเมื่อการกดขี่มากจนถึงขีดสุดไม่อาจทานทนต่อได้ ก็นำไปสู่การลุกฮือของเหล่าทาสเพื่อเรียกร้องความเป็นไทจากชนชั้นผู้ปกครอง โดยที่พวกเขาไม่ได้หวังที่จะแย่งชิงแผ่นดินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการ ลุกฮือของเหล่าทาสทำให้จักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ต้องเสียศักดิ์ศรี และหนทางที่จะกู้ศักดิ์ศรีมาได้ก็คือการเอาชีวิตเหล่าทาส ซึ่งพวกทาสยินดี ที่จะสละมันเพื่อแลกกับอิสรภาพที่รออยู่ในภพหน้าดีกว่าจะต้องมารับการกดขี่ ต่อไป ในหลายฉากของหนังสะท้อนถึงวิถีชีวิตของเหล่าทาสผู้โหยหาการปลดปล่อย โดยที่พวกเขาต่างดำเนินชีวิตแบบผู้คนรากหญ้าธรรมดาแต่ก็ถูกโรมกล่าวหาว่า เป็นกบฎ แล้วเมื่อพวกเขาต้องระหกระเหินเดินทางไปจนถึงเมืองท่าบรันดูเซี่ยมจนกระทั่ง ต้องพบกับการหักหลังของเหล่าโจรสลัด แล้วถูกบีบให้ต้องสู้ตาย ส่วนคนที่รอดก็ยินดีที่จะสละชีพ ตายไปซะยังดีกว่าที่จะมีลมหายใจแลกกับการทรยศผู้นำนั่นคือการชี้ ตัวSpartacus เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้สะท้อนถึงการปกครองแบบกดขี่และแบ่งชั้นวรรณะของโรมใน ยุคเฟื่องฟูได้เป็นอย่างดี

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจจากหนังเรื่อง นี้คือ รสนิยมการชมกีฬาต่อสู้แบบ Gladiator ในยุคนั้นที่ให้ทาสต้องสู้กันแบบให้ถึงตายเพียงเพื่อความสนุกสนานและความ สะใจของผู้ชม (สมัยของ Spartacus อยู่ก่อนยุคของจักรพรรดิคอมโมดัสซึ่งมีการก่อสร้างโคลอสเซี่ยมหลายสิบปี) ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงอุปนิสัย และอารมณ์ของผู้ปกครองที่ยังคงความป่าเถื่อนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี